Archive

Archive for April, 2007

แบล๊กถอกบล๊อกแท๊ก

April 17, 2007 13 comments
 
.. เอาล่ะเมื่อไม่ได้กลับบ้านแล้ว.. นั่งเล่นเนตอยู่คนเดียวก็ปล่อยให้ความง่อมเหงากัดกินเวลาไปเปล่า ๆ . .
.. เอาเวลามาชำระหนี้ที่สร้างไว้กันเลยดีกว่า .
.. เอาเป็นว่า ท่านพี่เก่ง แท๊กแถดแถด มาตั้งนานแล้ว.. ยังไม่ได้กระทำดังท่านพี่ประสงค์เลย..
. .เอ้า ! ป่านนี้พี่ท่านคงรอจนอาการอยากค้างเติ้งกลายเป็นเบื่อเซ็งไม่สนุกแล้ว หุหุ.. แต่ยังไงหนูก็.. ไม่ลืมแท๊กแถดแถดนั้นล่ะนะ..
 
   สำหรับ .. ห้าเรื่องที่คิดว่าใคร ๆ คงไม่รู้ อืมมม.. ความจริงเราเป็นคนค่อนข้างเปิดเผย.. คือ เราน่ะจะปิด แต่ไอ่เจ้าดุกรู้ดีนะสิ.. เปิดซะหมดไม่เหลือเลย.. ยังไงก็เอาเป็นห้าเรื่องที่คิดว่ามีคนรู้น้อยที่สุดก็แล้วกัน..
 
1.  เห็น ๆ หน้าตาจริงจังอย่างนี้ (รึเปล่าวะ) อาฮันเป็นคนช่างฝันนะ.. จินตนาการเฟื่องฟูฟูจนได้เรื่อง..
   ก็คงเหมือนคนมีความคิดมีจินตนาการทั่วไปล่ะมั้ง.. ชอบคิดชอบฝันและสืบเสาะหาเรื่องลึกลับน่าสนใจ .. จนมีจินตนาการเลยเถิดจนหยุดไม่อยู่ เช่น.. เคยคิดว่าถ้าหากโลกเรามีโลกคู่ขนานอีกแห่งและทุกคนก็มีตัวเราอีกคนหนึ่งในโลกคู่ขนานนั้น ๆ .. เป็นเรื่องจริง.. ตัวฉันอีกคนคงวิ่งไล่ไดโนเสาร์.. ขี่ปลาบินอยู่กระมัง..
   ได้เรื่องล่ะสิ คิดมากไป ดูหนังมากไป อ่านการ์ตูนมากไป อ่านเรื่องลึกลับมากไป.. ฯลฯ มากไป จนเก็บไปฝัน . คนที่คุย ๆ กันอยู่ก็คงรู้นะว่าฉันเป็นนักฝันตัวยง ฝันจริง ๆ นะ .. วันหนึ่งฝันดี มาก เป็นฝันกลางวันที่ลืมไม่ลงจริง ๆ ..ในฝันฉัน ….
   "กลิ่นหอมหวานอ่อน ๆ โชยมา .. ฉันนั่งกลางเกาะ. มีน้ำสีครามใสรายรอบ เลยออกไปเป็นฝั่งและมีกำแพงกระจกกางกั้นระหว่างฉันและคนอื่น ๆ.. พวกเขารุมล้อมอาณาบริเวณที่ฉันอยู่ จ้อง ตะโกน อย่างตะลึงและงงงัน.. งงงันพอ ๆ กับฉัน ฉันสงสัยว่าตัวเองนั่งอยู่ที่ไหนสักแห่งที่มีกลิ่นไอความมหัศจรรย์ .  และเมื่อฉันมองไปโดยรอบ.. ความมหัศจรรย์นั้นมีจริง..
    ฉันเห็นฮิปโปน้อย ๆ สีชมพูกำลังนอนไขว่ห้างร้องเพลง จิบน้ำส้มคั้นอย่างสบายอารมณ์.. นกแก้วจอมซนกำลังว่ายน้ำอย่างเมามันส์ .และกวางสีเหลืองอ่อนกำลังกินคอนแฟล็ก (อาหารเช้าของฝรั่ง) ฉันเริ่มตระหนักแล้วว่าฉันเป็นผู้ดูแลหมู่มิตรเหล่านี้ ที่นี่เป็นสวนสัตว์ (แบบพิศดาร) ยังไม่ทันมองได้ทั่วพื้นที่ หางปลาสีน้ำเงินก็สะบัดผลักให้ฉันตกลงจากเกาะกลางน้ำ ฉันเริ่มฉุนและหันไปมองที่ต้นเหตุ เมอร์เมดสาวสวยกำลังขยิบตาให้ฉันพร้อมแลบลิ้นเชิงล้อเลียน . ฉันเริ่มว่ายน้ำไล่เงือกสาวหมายจะเอาคืนให้สาแก่ใจ .. กับการรีบเร่งจนเสียจังหวะ ฉันกินน้ำไปหลายอึก พร้อมตะบี้ตะบันตีมือตีขาเพื่อพยุงตัวในน้ำ"
   ตุบ.. ตุบ.. ตึก.. ตั๊บ!!
   "เฮ้ย เป็นไรวะ?"
   "จับนางเงือก" ฉันตอบโดยไม่ใส่ใจกับอาการกลั้นหัวเราะของผู้ตั้งคำถาม.. แล้วฉันก็หลับบนเตียงอันชุ่มไปด้วยเหงื่อต่อไป ..

 
2.  ฉันเป็นคนโรแมนติกและอ่อนไหวนะจะบอกให้
   พูดอีกก็ไม่มีใครเชื่ออีก .. ทั้งๆ ที่ฉันก็ชอบแต่งกลอน.. ฟังเพลงซึ้ง ๆ อย่างอยู่เพื่อรักเธอ ของโจ๊กเกอร์ หรือเพื่อเธอตลอดไป ของศักดา หรือเพลงอื่น ๆ อีกมากมาย แล้วก็อินไปกับมัน .ทุกครั้งที่เห็นสายหมอก.. ขุนเขา .. ทะเล (ถึงจะนับครั้งที่เห็นทะเลได้ก็เถอะ). เห็นกระรอกน้อยไล่เล่นกันตามกิ่งไม้.. แมงปอโผบินระนาบกับท้องน้ำ ..ดาวแพรวพร่างบนฝากฟ้า ฯลฯ.. แหม..  โรแมนนนนนนนนนจัง.. ถ้าหากมีใครสักคนมาถามว่าจะซื้ออะไรเป็นของขวัญให้แฟนสาวดี.. ฉันก็คงตอบได้เลยว่า. อาจจะเป็นดอกไม้สักช่อ.  ร้องเพลงให้สักเพลง เป่าขลุ่ยเพราะ ๆ สักเพลง. หรือแต่งกลอนให้สักบท.. แค่นั้นก็สุดซึ้งแล้วสำหรับสาว ๆ. นี่ยังไม่เรียกว่าเป็นคนโรแมนติกอีกเหรอ?
   ..สำหรับฉัน กับช่อดอกไม้สักช่อ หรือแค่ดอกเดียว..
   "เฮ้ย ..ซื้อมาทำไมว่ะ เสียดายตังค์ เอาไปซื้อช็อคโกแลตไม่งั้นก็เค้กไอติมดีกว่า เหย" . ^^ แหะแหะ โรแมนติกกะอ่อนไหวกับเรื่องของชาวบ้านอ่ะ.
 
3.  แรกสายตาสั้น
   ข้อนี้ไม่เคยมีใครถามเลยแต่อยากบอกมากๆ .. มีแต่คนถามว่าสั้นหรือยาว เท่าไหร่ . ยังไง.. จะให้อธิบายยังไงดีล่ะ.. ตอนนี้ฉันสายตาสั้น 400 แล้วฮ่ะ . สายตาสั้นก็คือ มองอะไรระยะไกล ๆ ไม่ชัด ไม่ใช่ไม่เห็นนะ แค่ไม่ชัด เห็นเป็นภาพเบลอ ๆ ลาง ๆ บาง ๆ .. ไม่กล้าถอดแว่น กลัวจะตกใจตอนเห็นอะไรไหววูบ ที่แน่ ๆ เห็นภาพตัวเองในกระจกตอนถอดแว่น แล้วนึกว่าผีหลอก ช็อคตายกันพอดี ..
   ไม่รู้ว่าสายตาสั้นได้ยังไง.. แค่อ่านการ์ตูนบนรถ.. เล่นคอม (บางโอกาส ตอนนั้นที่บ้านยังไม่มีคอมสักเครื่อง) .ใช้สายตาเพ่งมะม่วงข้างบ้านแล้วใช้หนังสติ๊กยิง. ปุปุปุ.. ตอนอยู่ ป.5 นั่งท้ายห้องยังเห็นกระดานหน้าห้องอยู่เลย. แต่พอ ป.6 ตัวเล็ก (เตี้ย)ไป ไม่สามารถบังเพื่อน ๆ คนอื่นได้ อาจารย์เลยจับมานั่งหน้าห้อง. เห็นกระดานชัดแจ๋ว. และตั้งแต่นั้นมาก็นั่งหน้าห้องมาตลอด  กระดานก็ยังชัดเจนไม่เปลี่ยน.. สั้นไม่รู้ตัว. รู้อีกทีที่คุณหมอมาตรวจสุขภาพที่โรงเรียน.. เข้า ม.1 แล้ว. ที่นั่นมีทดสอบสมรรถภาพ หุหุ ของเรายอดเยี่ยมกระเทียมเจียวอยู่แล้ว ทั้งลุกนั่ง. กระโดดไกล ตรวจฟัน ตรวจเล็บ ผ่านหมด มาจนมุมเอาตอนวัดสายตานี่สิ มองอักษรไม่ชัดเอาเสียเลยจนต้องแอบลอกเพื่อนข้าง ๆ.. เออ เขาให้ปิดข้างซ้ายใช้ไหม ตาข้างขวายังมีลอกคนที่อยู่ด้านขวามือนี่ล่ะ(วะ) อ้าวผ่านครับผ่าน.. เย้ๆ . ต่อไปข้างซ้าย.. ก็ลอกเพื่อนที่อยู่ข้างขวาสิครับ.. อ้าว.. ลืมไป ตูอยู่ด้านขวาสุดของเพื่อนนี่หว่า (ตัวเล็กไป เขาให้เข้าแถวตามลำดับไหล่) เพื่อนข้างขวาไม่มีให้ลอกสักคน.. อ่านตัวอักษรก็อ่านแบบมั่ว ๆ เดาๆ ท้ายสุด โดนจับแยกแถว.. ไปอยู่กับพวกไร้สมรรถภาพทางสายตาเหมือนกัน แป่ววววว! กว่าเขาจะปล่อยตัวให้กลับห้องได้ก็หมดคาบเรียนเขาเตรียมตัวกลับบ้านกันหมดแล้ว ฮื้อ ฮือ ฮือ..
   ทันทีที่รู้ว่าสายตาไม่ได้เรื่องก็รีบบอกพ่อแม่เลยยยย.. บอกปุ๊บ.. รอไปอีกเดือน พ่อถึงจะพาไปตัดแว่น  .. ครั้งแรกสั้นข้างละ 175  ฮิ้ววว. ยังน้อยอยู่ มองก็เห็นไม่ต้องใส่มัน แว่นน่ะ ใส่แล้วเคือง.. ไม่ถนัด หนักดั้งอีกต่างหาก.. ขึ้นม.2 เอ๋.. อยู่หน้า ๆ ก็ชักมองไม่เห็นกระดานไปตรวจอีก สั้น 300 เจ้าค่ะ.. ได้แว่นใหม่มา  ต่อไปนี้ก็ใส่ตลอดแล้วจ้า..
   แว่นใหม่ที่ประทับใจก็ตอนอยู่ ม.3 ตอนนั่นสายตาเริ่มฟ่าฟางอีกครั้ง เลยต้องไปตัด จำได้ว่าตัดที่ร้านแว่นทอปเจริญ. รับแว่นเสร็จก็ไปเดินห้างโลตัส.. ขณะนั้นกำลังเห่อบาสเกตบอล..เห็นเขาบอกว่าเล่นบาสแล้วจะสูงขึ้น.. อยากตัวสูงเลยรบเร้าพ่อซื้อลูกบาส ทั้งๆ ที่ไม่ได้ดูสังขารตัวเอง. กลับถึงไอ่เราก็หัดชู๊ตลูกกกบาสสิ..
   ตึก ตึก ตึก ปึ๊ง !! แก๊ะ! .. ทายสิว่าเสียงอะไรบ้าง..
   1.  ตึก ตึก ตึก คือ เสียงลูกบาสกระทบพื้น
   2.  ปึ๊ง!! คือ เสียงลูกบาศกระดอนกระเด้งไปโดนประตูบ้าน
   3.  แก๊ะ! คือ เสียงลูกบาศเด้งโดนแว่นหัก เอิ๊กกก.. แว่นนนนนอันพันฝ่าาาา เพิ่งซื้อวันนี้!! 
   .. เฮ้อ.. เรื่องแว่น ๆ ก็คงไม่จบลงแค่นี้ตราบใดที่ฉันยังมีแว่นเป็นอวัยวะที่ 33 อยู่..
 
 4.  มนุษย์ต่างดาว (เรื่องจริง)
   คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเรื่อง มนุษย์ต่างดาวมีความน่าหลงไหลอีกเรื่องหนึ่ง.. น่าหลงไหลจนมีผู้สร้างประสบความสำเร็จและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองด้วยการทำหนังเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว อย่าง ET หนังยอดนิยมตลอดกาล . หลายคนหลงเสน่ห์ในความลึกลับนั้น หลายคนยังตั้งหน้าตั้งตาค้นหาว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่เป็นเรื่องเพ้อฝัน.  หลายคนอ้างว่าตนเองเห็นมาแล้วกับตา. หลายคนอาจจะแค่กุเรื่องขึ้นเพื่อสร้างกระแส แต่เชื่อไหมฉันเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวมากับสายตาอันสั้น ๆ ของฉันแล้ว .
   คืนหนึ่งคืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด เสียงฟ้าเสียงฝนยังคงครืน ๆ โครมคราม .. น่ากลัว. ฉันนอนไม่หลับ รู้สึกเย็นจับขั่วหัวใจ มองไปทางขวาน้องกำลังหลับปุ๋ย. ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว.. หันมองด้านซ้าย . ครอก ๆ ๆ ๆ .. เสียงใครบางคนที่อายุเยอะกว่าฉันกำลังกรน (ไม่บอกว่าเป็นใคร).. ฉันผุดลุกขึ้นเป็นเวลานาน ไม่เข้าใจว่าทำไม เหมือนมีบางอย่างร้องเรียกฉัน ฉันเพ่งไปในความมืดและอาศัยแสงจากฟ้าแลบบ้างเป็นบางครั้งคราว.. อะไรบางอย่างกำลังล่องลอยมาหาฉัน.. เป็นอะไรสักอย่างขนาดพอ ๆ กับลูกปัดเล็ก ๆ เรืองแสงวับ ๆ .. มันยังคงลอยตรงมาหาฉัน. จนมาถึงฉันในที่สุด .ในห้องนอนอันเย็นยะเยือก คุ้งไปด้วยกลิ่นไอฝน. ‘ผ้าห่มอยู่ไหน?’.. ฉันควานหาจนเจอเมื่อรู้สึกว่ามือของฉันเย็นเฉียบแบบกระทันหัน. ลูกแสงสว่างยังคงทำหน้าที่ของมัน. มันยังคงลอยล่องวนเวียนไปมารอบ ๆ ตัวฉันราวกับกำลังสำรวจอะไรสักอย่างในตัวฉัน. ฉันหลับตาปี๋. ใจพลันนึก. ‘ต้องใช่แน่ ๆ ไม่งั้นเขาจะเรียกให้ฉันตื่นขึ้นมาทำไม ตัวเล็กอย่างนี้คงเอาตัวฉันไปไม่ได้หรอก’ ฉันตั้งใจจ้องมองด้วยใจหวั่น ๆ กลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่มีฉันบนโลกใบนี้ ครอบครัวฉันจะโดนลบความทรงจำส่วนที่เกี่ยวข้องกับฉัน . ลูกแสงสว่างกลม ๆ ยังลอยขึ้น ๆ ลง ๆ สำรวจตัวฉัน แล้วหยุดนิ่งที่ไหนสักแห่ง ฉันเพ่งมองด้วยสายตาเบลอ ๆ แล้วภาพทุกอย่างก็เลือนแล้วดับวูบ.
   เช้าหนึ่งเช้านั้น..  ฉันตื่นขึ้นด้วยอาการงัวเงีย ใช่แล้ว วันนี้ต้องไปโรงเรียน.. แต่เอ๊ะ! ฉันยังอยู่ที่บ้าน. มีพี่มีน้อง. พ่อแม่ ญาติๆ อีกล่ะ. ฉันไม่โดนลักพาตัวไปซะหน่อย แล้วมนุษย์ต่างดาวเมื่อคืนหายไปไหนล่ะ. ฉันลุกขึ้นและสะบัดผ้าห่มพรืดดดดดด ๆ.. และแล้วเจ้าหิ่งห้อยก็กระเด็นออกมาจากฝ้าห่มของฉัน. น่าสงสาร. หิ่งห้อยน้อยแบนแต๊ดแต๋เหมือนโดนนอนทับมาหมาด ๆ เมื่อคืนนี้. ตาฉันพลันสว่างวูบ อ๋ออออออ.. เมื่อคืนนี้…

 
 
 
 5.  สุดท้ายของปัญหา
   ทุกคนมีปัญหา และปัญหาของแต่ละคนก็ย่อมเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคน ๆ นั้น สำหรับคนอื่นอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างไรปัญหานั้นก็อาจทำให้คนเราจนมุมจนยอมทำอะไรที่ผิดศีลธรรม ผิดที่ ผิดทาง ยังไงทุก ๆ ปัญหาก็ย่อมมีทางแก้ อยู่ที่ทางแก้นั้นถูกหรือผิด ถ้าเราเดินผ่านพ้นปัญหานั้น ๆ แล้วหันไปมองมัน มันเป็นเพียงแค่เรื่องหยุมหยิม ฉันไปคิดจนหัวแทบระเบิดได้อย่างไรนะ?
   ฉันเองก็มีปัญหา
– พูดไม่รู้เรื่อง
– ทำงานช้า เนิบนาบ เต่า
– คิดแบบที่ใคร ๆ เขาไม่คิด ไม่ลงรอยใคร
– ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ๆ
– หมกหมุ่นในโกของตัวเองมากเกินไป
– พูดตรง ๆ ขวานฝ่าซาก แล้วไปแล้วชอบเก็บมากลุ้มใจ
– ฯลฯ
   สำหรับฉัน ปัญหาทุกปัญหา เพียงมีใครสักคนเข้าใจ ช่วยคิด ช่วยแบ่งปัน แค่นั้นก็พอใจแล้ว.. "เพื่อนแท้" คือสิ่งที่ทุกคนค้นหามาตลอด และฉันเองก็อยากเป็นอย่างนั้นสำหรับคนที่ฉันรักทุกคน.. เรื่องราวข้างบนเป็นแค่บางส่วน.. ถ้าอยากรู้จักก็ลองถามไถ่ เข้ามาพูดคุย . ฯลฯ . แล้วเราก็คงได้เป็น "เพื่อนแท้" ต่อกันสักวัน..
 
เอาล่ะ 5 คนที่จะแท๊ก แถดดด แถดด ไป  ไม่รู้อ่ะ ไม่มี มีน้อย ที่มีก็โดนท่านพี่เก่งแถดไปหมดแระ เฉ้า! 
1.  ปุ๊ก เพื่อนคนแรกที่ยอมให้ tag (แวะเข้าไปเยี่ยมพื้นที่ของเธอได้ฮับ)
2.
3.
4.
5.
 
 
 

ปีใหม่นี้

April 12, 2007 1 comment
 
.. แย่ล่ะสิ .. สงกรานต์ปีนี้ฉันไม่ได้กลับบ้าน (อีกแล้ว)..
.  ฉันเองก็ไม่เข้าใจ..
  .ตั้งแต่มาเรียนที่เชียงใหม่.. การกลับบ้านเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็น .
   ต่อให้ใครต่อใครกลับกันหมด แต่สำหรับฉันต้องมีเหตุอะไรสักอย่างที่ต้องอยู่..
…ทั้งที่อยากกลับบ้าน..
. .รอดู.. อะไรจะเกิด .. ปีใหม่นี้ .
 
Categories: diary_addicted